Description
เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด Rongta RP500
เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด Rongta RP500 ขนาด 4 นิ้ว เล็กกะทัดรัด พิมพ์ด้วยความเร็วสูง ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ราคาย่อมเยาประสิทธิภาพสูงเทียบเท่าเครื่องราคาแพงทั่วไป เชื่อมต่อ USB/USB+Serial+Ethernet+Parallel เหมาะกับธุรกิจ E-commerce, Retail, Supermarket, Logistic พิมพ์บาร์โค้ดด้วยวิธีการถ่ายโอนความร้อน รูปลักษณ์ทันสมัย มีความเร็วสูง ความเสถียร และความทนทานเป็นเลิศ มีการตรวจจับกระดาษที่ส่งผ่านได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ สะดวกกับการใช้งาน แม้กับคนที่ยังไม่เคยใช้งานมาก่อน ก็สามารถที่จะใช้งานได้ง่าย
คุณสมบัติ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด Rongta RP500
- พิมพ์กระดาษได้กว้าง 4 นิ้ว
- ความเร็วในการพิมพ์ 90 mm/s
- ความละเอียดในการพิมพ์ 300 จุด/นิ้ว(dpi)
- เชื่อมต่อด้วย USB/USB+Serial+Ethernet+Parallel
- รองรับโหมดการพิมพ์การถ่ายโอนความร้อน สามารถพิมพ์ฉลากได้หลากหลาย: ป้ายเสื้อผ้า ฉลากซักผ้า ฉลากผลิตภัณฑ์ ฉลากเครื่องประดับแผ่นทองแดง ฉลากความร้อน ฯลฯ
- ประสิทธิภาพสูง สามารถพิมพ์ได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
- การตรวจจับกระดาษที่ส่งผ่านได้แม่นยำและรวดเร็ว
- ซอฟต์แวร์นี้มีแอพพลิเคชั่นที่หลากหลายสำหรับการแก้ไขแบบออนไลน์บนพีซี วิธีการแก้ไขและใช้งานง่าย
Specifications
ประโยชน์ของเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด (Barcode Printer Benefits)
เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดมีบทบาทสำคัญในหลายอุตสาหกรรม เช่น ค้าปลีก, คลังสินค้า, โรงงานอุตสาหกรรม, โรงพยาบาล และโลจิสติกส์ เพราะช่วยให้การจัดการข้อมูลเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เพิ่มความแม่นยำในการบันทึกข้อมูล
- การใช้บาร์โค้ดช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการป้อนข้อมูลด้วยมือ
- สแกนบาร์โค้ดเพื่อป้อนข้อมูลได้ทันที ลดความคลาดเคลื่อน
ตัวอย่าง
- ร้านค้าปลีกใช้บาร์โค้ดแทนการพิมพ์ราคาด้วยมือ
- โรงพยาบาลใช้บาร์โค้ดเพื่อตรวจสอบยาและประวัติคนไข้
- เพิ่มความเร็วในการทำงาน
- ช่วยให้กระบวนการจัดการสินค้าคงคลัง, การขาย และการขนส่งรวดเร็วขึ้น
- พิมพ์ฉลากบาร์โค้ดได้เอง ลดเวลารอฉลากจากซัพพลายเออร์
ตัวอย่าง
- ร้านค้าสามารถสแกนบาร์โค้ดเพื่อคิดเงินลูกค้าได้เร็วขึ้น
- คลังสินค้าสามารถติดฉลากบาร์โค้ดเพื่อจัดการสต็อกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
- ลดต้นทุนแรงงานที่ต้องมาทำงานเอกสารและบันทึกข้อมูล
- ลดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ฉลากจากบริษัทภายนอก
- ลดของเสียและการสูญหายของสินค้า เนื่องจากสามารถติดตามสินค้าได้ง่าย
ตัวอย่าง
- โรงงานอุตสาหกรรมใช้บาร์โค้ดเพื่อตรวจสอบวัตถุดิบและสินค้า
- ร้านค้าสามารถลดการสูญหายของสินค้าโดยใช้ระบบบาร์โค้ดติดตามสต็อก
- รองรับการพิมพ์ฉลากที่หลากหลาย
- สามารถพิมพ์ฉลากสินค้า, ป้ายบาร์โค้ด, ฉลากสินค้าคงคลัง, ฉลากจัดส่ง ฯลฯ
- ใช้งานได้ทั้งกระดาษฉลากธรรมดา, สติ๊กเกอร์กันน้ำ, สติ๊กเกอร์พลาสติก ฯลฯ
ตัวอย่าง
- ธุรกิจอีคอมเมิร์ซใช้เครื่องปริ้นบาร์โค้ดพิมพ์ฉลากจัดส่งพัสดุ
- โรงงานใช้ฉลากทนความร้อนและสารเคมีเพื่อติดกับชิ้นส่วนเครื่องจักร
- รองรับการพิมพ์ที่ความละเอียดสูง
- พิมพ์บาร์โค้ด, QR Code, โลโก้ และข้อมูลต่างๆ ได้คมชัด
- รองรับการพิมพ์ความละเอียด 203, 300, และ 600 DPI สำหรับงานที่ต้องการรายละเอียดสูง
ตัวอย่าง
- ร้านเครื่องสำอางใช้เครื่องพิมพ์ 300 DPI เพื่อพิมพ์ฉลากสินค้าขนาดเล็ก
- โรงพยาบาลใช้เครื่องพิมพ์ 600 DPI เพื่อพิมพ์ฉลากติดขวดยา
- รองรับการทำงานในหลายอุตสาหกรรม
- ใช้ได้ในธุรกิจค้าปลีก, คลังสินค้า, การผลิต, โรงพยาบาล, โลจิสติกส์ ฯลฯ
ตัวอย่าง
- ร้านค้าปลีกใช้พิมพ์ฉลากราคาสินค้า
- คลังสินค้าใช้พิมพ์ฉลากบาร์โค้ดสำหรับระบบจัดการสต็อก
- โรงพยาบาลใช้พิมพ์บาร์โค้ดเพื่อติดข้อมือผู้ป่วย
- รองรับการพิมพ์แบบ Direct Thermal และ Thermal Transfer
- Direct Thermal (พิมพ์โดยใช้ความร้อน) เหมาะกับงานที่ไม่ต้องการความทนทานสูง
- Thermal Transfer (ใช้ริบบอน) เหมาะกับฉลากที่ต้องการอายุการใช้งานนาน ทนต่อความร้อนและสารเคมี
ตัวอย่าง
- ร้านค้าปลีกใช้ Direct Thermal พิมพ์ใบเสร็จและฉลากราคา
- โรงงานอุตสาหกรรมใช้ Thermal Transfer พิมพ์ฉลากสินค้าทนทาน
- รองรับระบบ POS, ERP และ WMS
- ใช้ร่วมกับระบบ Point of Sale (POS) สำหรับธุรกิจค้าปลีก
- ใช้ร่วมกับระบบ ERP และ WMS เพื่อจัดการคลังสินค้า
ตัวอย่าง
- ร้านสะดวกซื้อใช้บาร์โค้ดร่วมกับ POS ในการขายสินค้า
- โรงงานใช้บาร์โค้ดร่วมกับ ERP/WMS เพื่อติดตามสินค้าคงคลัง
- ช่วยให้ธุรกิจมีมาตรฐานและเป็นมืออาชีพ
- ทำให้สินค้าและระบบจัดการข้อมูลเป็นมาตรฐาน
- ฉลากสินค้าดูเป็นมืออาชีพ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
ตัวอย่าง
- บริษัทขนส่งใช้ฉลากบาร์โค้ดติดพัสดุเพื่อความแม่นยำในการจัดส่ง
- ร้านค้าใช้ฉลากบาร์โค้ดพิมพ์โลโก้และข้อมูลสินค้าเพื่อให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ดีขึ้น
- ประหยัดเวลาและสะดวกในการใช้งาน
- สามารถพิมพ์ฉลากได้ตามต้องการ ไม่ต้องรอพิมพ์จากภายนอก
- ใช้งานง่าย รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB, LAN, Wi-Fi
ตัวอย่าง
- ร้านค้าออนไลน์สามารถพิมพ์ฉลากสินค้าหรือจัดส่งได้เอง
- คลังสินค้าสามารถพิมพ์ฉลากสินค้าใหม่ได้ทันทีเมื่อมีสินค้าเข้า
สรุป: ทำไมธุรกิจควรใช้เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด?
- ช่วยลดข้อผิดพลาดในการบันทึกข้อมูล
- เพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการจัดการสินค้าคงคลังและขายสินค้า
- ลดต้นทุนไม่ต้องจ้างบุคคลภายนอกพิมพ์ฉลาก
- รองรับการพิมพ์ฉลากที่หลากหลาย
- ช่วยให้ธุรกิจดูเป็นมืออาชีพ
หากคุณต้องการระบบที่รวดเร็วและแม่นยำเครื่องพิมพ์สติกเกอร์บาร์โค้ดเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้!
โหมดการพิมพ์แบบถ่ายโอนความร้อน (Thermal Transfer Printing Mode)
โหมดการพิมพ์แบบถ่ายโอนความร้อนเป็นเทคนิคการพิมพ์ที่ใช้ริบบอนหมึกพิมพ์ (Thermal Transfer Ribbon - TTR) ในการถ่ายโอนหมึกไปยังวัสดุพิมพ์ เช่นกระดาษ, สติกเกอร์, พลาสติก, ฟิล์ม หรือแม้กระทั่งผ้า ซึ่งแตกต่างจากการพิมพ์แบบ Direct Thermal ที่ใช้ความร้อนกับกระดาษเคลือบพิเศษโดยตรง
หลักการทำงานของ Thermal Transfer Printing
- หัวพิมพ์ความร้อน (Thermal Printhead) ทำความร้อนในจุดที่ต้องการพิมพ์
- ริบบอนหมึกพิมพ์ (Thermal Transfer Ribbon - TTR) ซึ่งเป็นแผ่นฟิล์มเคลือบหมึก จะละลายเมื่อได้รับความร้อนจากหัวพิมพ์
- หมึกจากริบบอนจะถูกถ่ายโอนไปยังวัสดุพิมพ์ ทำให้ได้ภาพหรือข้อความที่มีความคมชัดและติดทนนาน
ข้อดีของการพิมพ์แบบถ่ายโอนความร้อน
- ทนทานต่อการขีดข่วนและความชื้น หมึกติดทนนานกว่า Direct Thermal
- สามารถพิมพ์ลงบนวัสดุได้หลากหลาย เช่น สติกเกอร์พลาสติก (PP, PET), กระดาษเคลือบมัน, ผ้า ฯลฯ
- เหมาะกับงานที่ต้องการความทนทานสูง เช่น บาร์โค้ด, ป้ายสินค้า, ป้ายเครื่องมือแพทย์, ฉลากสินค้าในห้องเย็น ฯลฯ
- หมึกไม่จางเมื่อโดนความร้อนหรือแสงแดดโดยตรงต่างจากการพิมพ์ Direct Thermal ที่กระดาษจะเปลี่ยนสีเมื่อโดนความร้อน
ข้อเสียของการพิมพ์แบบถ่ายโอนความร้อน
- ต้องใช้ริบบอนหมึกพิมพ์ (TTR) เพิ่มเติมซึ่งทำให้มีต้นทุนเพิ่ม
- เปลี่ยนริบบอนเมื่อหมดอาจใช้เวลาบำรุงรักษามากกว่า Direct Thermal
- หากใช้ริบบอนไม่เหมาะกับวัสดุ อาจทำให้หมึกติดไม่ดีหรือหลุดลอกง่าย
ประเภทของริบบอนที่ใช้ใน Thermal Transfer Printing
- Wax Ribbon ใช้กับกระดาษเคลือบมัน/ด้าน ราคาถูก แต่ทนต่อรอยขีดข่วนต่ำ
- Wax-Resin Ribbon ทนทานมากขึ้น ใช้ได้กับพลาสติกบางประเภท
- Resin Ribbon แข็งแรงที่สุด ทนต่อสารเคมีและความร้อน ใช้กับฉลากพลาสติกและงานอุตสาหกรรม
การใช้งานที่เหมาะกับ Thermal Transfer Printing
- ฉลากบาร์โค้ดสินค้าในคลังสินค้าและซูปเปอร์มาร์เก็ต
- ป้ายบาร์โค้ดในโรงพยาบาลและอุตสาหกรรมยา
- ฉลากสินค้าในอุตสาหกรรมอาหารที่ต้องแช่เย็นหรือแช่แข็ง
- ป้ายระบุเครื่องมือในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
- ฉลากสำหรับอุตสาหกรรมเคมีหรือเครื่องจักร
สรุป
โหมดการพิมพ์แบบถ่ายโอนความร้อนเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความคมชัดสูงและความทนทานของหมึก เช่น บาร์โค้ด หรือฉลากที่ต้องการอายุการใช้งานนาน และทนต่อสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น ความร้อน ความชื้น และสารเคมี หากต้องการพิมพ์ฉลากที่มีอายุการใช้งานสั้นและต้นทุนต่ำ อาจเลือก Direct Thermal แทนแต่หากต้องการความทนทานสูงกว่า และสามารถพิมพ์ลงบนวัสดุที่หลากหลายได้ Thermal Transfer เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
Reviews
There are no reviews yet.